เมื่อราว 4,500 ปี ท้องที่พนัสนิคมเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างบ้านเมืองขึ้นเป็นรัฐชายฝั่งทะเล อ่าวบางปะกงกินเข้ามาลึกกว่าปัจจุบัน อย่างน้อยถึงเขต อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ดังนั้นส่วนที่เป็นพื้นที่ อ.พนัสนิคม จึงเคยเป็นทะเลตมและป่าชายเลน บางแห่งสูงคล้ายเกาะเพราะโอบล้อมด้วยทะเลโคลน
ดังแหล่งชุมชนโบราณที่ โคกพนมดี ต.ท่าข้าม อ.พนัสนิคม ที่ปัจจุบันมีลักษณะของเนินดินขนาดใหญ่คล้ายเกาะ (โคก หมายถึง เนินดิน, พนม หมายถึง ภูเขา, โคกพนมดี จึงหมายถึง เนินดินสูงคล้ายภูเขา ที่เหมาะแก่การตั้งถิ่นอาศัยทำมาหากิน) จึงมีผู้คนที่เป็นบรรพบุรุษของชาวโคกพนมดีตั้งหลักแหล่งอยู่บริเวณนี้ เพราะความอุดมสมบูรณ์ของแหล่งอาหารใกล้ทะเล
นอกจากโครงกระดูก ขวานหิน ซากสัตว์ทะเล เศษภาชนะดินเผา เครื่องประดับที่พบในโคกพนมดีแล้ว ที่นี่ก็มี ลูกปัด แต่เป็นลูกปัดที่ทำจากกระดูกสัตว์ ซึ่งมักสวมใส่อยู่บนโครงกระดูก เป็นการแสดงถึงการมีพิธีกรรมการฝังศพของชุมชนโคกพนมดี การเชื่อถึงโลกหน้า ที่มีการฝังสิ่งของเปลือกหอย เครื่องประดับ ร่วมกับผู้ตายให้นำไปใช้หรือเป็นสัญลักษณ์แสดงความเป็น ชนชั้นนำ ของกลุ่ม
มาในสมัยทวารวดี (ราว พ.ศ.1100 ลงมา) บริเวณพนัสนิคมนี้ ก็ยังเป็นเมืองท่าติดต่อการค้าทางทะเลกับบ้านเมืองภายนอก ด้วยปัจจัยที่ตั้งเมืองอยู่ชายขอบระหว่างที่ราบลุ่มและที่สูงป่าดง เพาะปลูกและตั้งถิ่นฐานได้ดี โดยเฉพาะการที่บริเวณนี้เคยอยู่ใกล้ชิดทะเลมาก่อน มีลำน้ำพานทองไปออกทะเลได้ ทำให้เหมาะกับการเป็นเมืองท่าขนถ่ายสินค้า
หลักฐานการเป็นเมืองในสมัยทวารวดีนี้คือ เมืองพระรถ อยู่บรเวิณวัดหน้าพระธาตุ และเมืองศรีพโล ตั้งบริเวณตรงปากอ่าวที่อยู่ในเขต จ.ชลบุรี
โคกพนมดี ที่ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี อาจยังเป็นที่รู้จักของคนเฉพาะกลุ่มเพราะไม่มีกระแสข่าวมากระพือให้คนตื่นรู้ แต่แค่หน่วยงานเกี่ยวข้องช่วยกันผลักดัน โคกพนมดีก็จะเป็นแหล่งเรียนรู้ที่มีคุณค่าของชาวพนัสนิคม ชาวชลบุรีและของทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้อย่างไม่น้อยหน้าทีเดียว
ขอขอบคุณ "เรือนอินทร์ หน้าพระลาน"
เว็บตรง
เข้าชม : 364
|