เมืองพนัสนิคมเป็นเมืองเก่ามีชุมชนที่มาจากเชื้อชาติต่างๆ มาอยู่รวมกัน ทั้งคนไทย ซึ่งอพยพมาตั้งแต่คราวกรุงศรีอยุธยาแตก ที่วัดโบสถ์ วัดหลวงและบ้านสวนตาล นอกจาก นี้ ชุมชนเชื้อสายลาวซึ่งมาอยู่อาศัยตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 ปัจจุบันคือ บริเวณหมู่บ้านศรีวิชัย สำหรับชุมชนชาวจีนนั้นมาอยู่ในคราวเมื่อมีการค้าขายแลกเปลี่ยน ดังนั้น ประเพณีบุญกลางบ้านในแต่ละแห่ง จึงมีข้อรายละเอียดแตกต่างกันเล็กน้อย อันเนื่องมาจากความเชื่อและประเพณีดั้งเดิมของเชื้อชาตินั้น ๆ อย่างไรก็ดี งานบุญกลางบ้านนั้น มีมาแล้วนับร้อยปี (อาศัยอายุจากผู้ให้ข้อมูลคุณลุงมัย อายุ 85 ปี ท่านบอกว่า สมัยรุ่นบิดา มารดาของท่านทำกันมาก่อนแล้ว และยังคงดำรงสืบทอดต่อ ๆ กันมาโดยตลอด)
ในการทำบุญกลางบ้านนี้ ไม่ว่าชุมชนเชื้อชาติใดก็ตาม ก็ถือคติการทำบุญที่คล้าย ๆ กันคือ รำลึกถึงภูตผี เทวดา เพื่อ
-จะอยู่ดีมีแรง
-อยู่เย็นเป็นสุข
-สะเดาะเคราะห์ เสียเคราะห์
-เป็นสิริมงคล
-ร่มเย็นเป็นสุข
สิ่งที่ได้จากการทำบุญกลางบ้านทางอ้อมคือ ความสามัคคี การไต่ถามสารทุกข์สุขดิบซึ่งกันและกัน มีปัญหาปรึกษาช่วยกันแก้ไข
การดำเนินงาน |
- 1. ตั้งปะรำปูพื้น ขึงผ้าม่าน พื้นในบางแห่งปูด้วยแผ่นไม้ บางแห่งใช้เสื่อ โดยเลือกสถานที่ที่เป็นที่ ว่างกลางหมู่บ้านหรือกลางท้องนา
- 2. การกำหนดสถานที่อาจเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม เช่น บางปีน้ำท่วมขังก็ย้ายที่ใหม่
-
3. จัดตั้งที่พระพุทธ(บางแห่งมีการแห่พระพุทธรูปมาประดิษฐานด้วย) ที่วางบาตรน้ำมนต์ บางสถานที่จะจัดตั้งศาลเพียงตา บางแห่งจะใช้เพียงต้นเสา 1 ต้น วางไม้พาดเป็นตัวที เรียกว่า ศาลเทวดา ไว้สำหรับไหว้บรรพบุรุษหรือเจ้าที่ โดยส่วนใหญ่จะทำนอกปะรำพระสงฆ์
-
4. ตอนเย็นนิมนต์พระ 9 รูป หรือมากกว่านี้มาสวดมนต์เย็น ชาวบ้านจะมาฟังพระสวดมนต์ในบางแห่งที่ชุมชนมีเชื้อสายไทย (วัดโบสถ์ วัดหลวง สวนตาล) จะมีการตีฆ้อง 3 ครั้งหลังจากพระสวดจบ 1 บท แต่ในบางแห่งเป็นการสวดมนต์ธรรมดาไม่มีการตีฆ้อง สำหรับการเล่นนั้น หลังเลิกสวดมนต์แล้ว บางแห่งก็มีบางแห่งก็ไม่มี การเล่นคือ หมอลำ ลิเกขี้เมา (ร้องกันเอง) รำวง
-
5. เช้าวันรุ่งขึ้น พระจะมาฉันเช้า ชาวบ้านจะนำข้าวหม้อ แกงหม้อ มารวม ๆ กันตักแบ่งถวายพระ ในบางแห่งจะมีการเผาข้าวหลาม ถวายพระด้วย อาหารนั้นสุดแต่ใครจะนำมาแต่ในบางสถานที่ก็ตกลงกันว่าใครจะทำอะไรบ้าง
-
6. ในบางแห่งจะมีการทำกระทงด้วยใบตองใส่ลงไปในกระทงกาบกล้วยที่ทำเป็นรูปสี่เหลี่ยม ใช้กาบกล้วยตัดเป็นรูปคน หรือบางครั้งใช้ดินเหนียวปั้นเป็นรูปคนเท่าจำนวนคนในบ้านรวมไปถึงวัว ควาย ไก่ หรือสัตว์เลี้ยงอื่นด้วย ใส่เสื้อผ้าให้ด้วย (พบว่าการทำกระทงนี้ชุมชนเชื้อสายลาวจะทำทุกที่ ยกเว้นชุมชนเชื้อสายไทยที่ไม่ทำ) นำกระทงนี้ไว้วางที่ทิศตะวันตก ในกระทงนั้นบางแห่งใส่ชิ้นพร่าปลายำ (ผักพร่าปลายำ) พริกแห้ง เกลือ หัวหอม ข้าวดำ ข้าวแดง บางแห่งไม่ใส่ข้าวแดงแล้วจุดธูปปักลงในกระทง บางแห่งจุดดอกเดียว บางแห่งก็สุดแล้วแต่จำนวนกระทงใส่สตางค์ลงไปด้วย เมื่อพระฉันเสร็จแล้ว ท่านจะนำน้ำมาองค์ละ 1 แก้ว ยืนเป็นวงกลม แล้วสวดมนต์กรวดน้ำราดลงไปในกระทง บางแห่งว่าอุทิศให้คนอยู่ บางแห่งว่าอุทิศให้คนตาย เสร็จแล้วชาวบ้านจะนำไปทิ้งที่ทางสามแพร่งหรือโคก
-
7. หลังเสร็จพิธี ชาวบ้านจะนั่งร่วมรับประทานอาหารด้วยกัน โดยจะไต่ถามความเป็นอยู่ ตลอดจนแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ซึ่งกันและกัน ในบางสถานที่กล่าวว่าอาหารก็จะรับประทานอาหารกันให้หมด ที่เหลือทิ้งไปไม่นำกลับ เช่นที่ชุมชนบ้านหน้าพระธาตุ แต่โดยส่วนใหญ่รับประทานเหลือก็ตักแบ่ง ๆ กันไป นำกลับบ้าน หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันกลับบ้าน
-
-
|
เข้าชม : 682
|