[x] ปิดหน้าต่างนี้
 

 

  

บทความทั่วไป
สังคมไทยกับยาเสพติด

พฤหัสบดี ที่ 19 เดือน กันยายน พ.ศ.2556

สังคมไทยกับยาเสพติด
ยาเสพติดในสังคมไทยมีมาตั้งแต่ช้านาน ปัจจุบันปัญหายาเสพติดก็กำลังแพร่ระบาดและขยายไปทั่วประเทศมากขึ้น และก่อให้เกิดปัญหาสังคมขึ้นมามากมาย ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาที่เป็นภัยร้ายแรงต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตส่งผลกระทบต่อสังคม เศรษฐกิจ บั่นทอนความเจริญของประเทศชาติ การที่เราให้ความสนใจในเรื่องความเป็นมาของยาเสพติดนั้นเป็นสิ่งที่ดีเพราะถ้าเรามีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้มากเราก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยแก้ ปัญหาได้ แม้จะช่วยไม่ได้มากก็ตาม
โดยส่วนมากผู้ติดยามักเริ่มจากด้วยความอยากรู้ความอยากลอง และความคึกคะนองเป็นส่วนใหญ่อีกทั้งสภาพแวดล้อม  สังคม และค่านิยมในกลุ่มเป็นแรงผลักดันอีกชั้นหนึ่งประกอบกับหาซื้อได้ง่าย ทำให้จำนวนผู้ติดยาเพิ่มมากขึ้นถึงแม้จะถูกบรรจุลงในวาระแห่งชาติก็ตาม แต่ก็ยังมีข่าวออกมาให้เห็นกันอยู่ตามหน้าหนังสือตลอด ซึ่งล้วนก่อความเสียหายให้กับประเทศชาติทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นการปล้นชิงหรืออาชญากรรม ล้วนนำมาซึ่งความสูญเสีย กลุ่มเยาวชนจะติดยาเสพติดมากกว่ากลุ่มคนกลุ่มอื่น และที่น่าเป็นห่วงมากก็คือมันกำลังแพร่ระบาดสู่เด็กนักเรียนช่วงวัย9ขวบ และ10ขวบ สาเหตุอาจเป็นเพราะเกิดจากถูกเพื่อนชักจูงให้ลองเสพ อยากรู้ อยากลอง ถูกล่อลวง และสาเหตุสำคัญอีกประการหนึ่งคือการขาดความอบอุ่นในครอบครัว พ่อแม่ไม่มีเวลาให้ปัญหาพ่อแม่หย่าร้างกัน ผู้ใหญ่ไม่ได้สนใจดูแลหรือเป็นที่พึ่งของเด็กได้ เด็กเกิดความว้าเหว่ไม่รู้จะปรึกษาใคร เลยหันไปหายาเสพติด หรือเป็นเป้าล่อให้กับผู้ไม่ปรารถนาดีอย่างพอดี
ปัจจุบันยาเสพติดได้มีการเปลี่ยนรูปแบบในการแพร่ขยายไปมากจากเดิมเคยพบเป็นเฮโรอีนซึ่งเราก็ได้ยินกันบ่อยๆ ก็กลายเป็นยาบ้า ยาไอซ์ ยาอี ที่เราได้ยินข่าวแทบจะทุกวัน ตัวยาพวกนี้ออกฤทธิ์ต่อสมองโดยเข้าไปปรับหรือเปลี่ยนแปลงสารเคมีบางตัว ทำให้มีฤทธิ์ที่ทำให้ผู้เสพรู้สึกคึกคัก มีพลัง หรือรู้สึกเพลิดเพลินค่อนข้างมาก หลายคนชอบใจติดใจในความสนุกสนานที่ได้รับจากฤทธิ์ของยา กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็สายเสียแล้ว
 
วิธีการป้องกันและการแก้ไขปัญหายาเสพติด
    เริ่มจากตนเอง  ไม่ทดลองเสพยาเสพติดทุกชนิด ถ้ามีปัญหาหรือไม่สบายใจ อย่าเก็บไว้คนเดียว ไม่หาทางออกในทางทิ่ผิดหรือเป็นโทษ ควรปรึกษาพ่อ แม่ ครู ผู้ใหญ่หรือญาติๆของเรา ควรใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ เช่น อ่านหนังสือ ฟังเพลง เล่นกีฬา หรือทำงานอดิเรกต่าง ๆ
    ต่อมาคือครอบครัว คนในครอบครับเป็นสิ่งสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งที่จะช่วยไม่ให้เด็กหลงผิดหรือตกเป็นทาสของยาเสพติด ควรสอดส่องดูแลเด็กและบุคคลในครอบครัวอย่าให้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด อบรมสั่งสอนให้รู้ถึงโทษภัยของยาเสพติด ดูแลเรื่องการคบเพื่อน คอยส่งเสริมให้เขารู้จักการใช้เวลาในทางที่เป็นประโยชน์ เช่น การทำงานบ้าน เล่นกีฬา ฯลฯ เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กหันเหไปสนใจในยาเสพติด สิ่งสำคัญก็คือ ทุกคนในครอบครัวควรให้ความรักความเข้าใจ ให้ความอบอุ่น มีเวลาว่างให้กันหรืออยู่ด้วยกันบ่อยๆ และสร้างความสัมพันธ์อันดีต่อกัน
     และสุดท้ายคือชุมชนหรือคนในสังคม นี้ก็เป็นกลุ่มๆหนึ่งที่สามรถช่วยแก้ไขปัญหายาเสพติดได้ ถ้าหากพบผู้ติดยาเสพติดควรช่วยเหลือแนะนำให้เข้ารับการบำบัดรักษาโดยเร็ว  เมื่อรู้ว่าใครผลิต นำเข้า ส่งออก หรือจำหน่ายยาเสพติด ควรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ศุลกากร นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ หรือเจ้าหน้าที่ของสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เพื่อดำเนินการกวาดล้างและปราบปรามมิให้ยาเสพติดกระจายไปสู่ชุมชน                  
      นอกจากนี้การประชาสัมพันธ์ และเผยแพร่ความรู้ เรื่องพิษภัยของยาเสพย์ติดคงจะเป็นอีกมาตรการหนึ่งที่ช่วยสร้างความเข้าใจที่ ถูกต้องแก่เยาวชนได้การจัดค่ายอบรมเรื่องยาเสพย์ติด การจัดรายการประจำทางสื่อวิทยุโทรทัศน์และคอลัมน์ในหนังสือพิมพ์ นิตยสารและสิ่งพิมพ์ต่างๆตลอดจนการให้ความรู้ ทางสื่ออื่นๆ น่าจะเป็นวิถีทางที่เร่งเร้าจิตสำนึกของคนไทยให้ช่วยกันขจัดปัญหายาเสพย์ติด

หลักในการหลีกเลี่ยงและป้องกันการติดสิ่งเสพติด
1. เชื่อฟังคำสั่งสอนของพ่อแม่ ญาติผู้ใหญ่ ครู และคนอื่นๆ ที่น่านับถือและหวังดี (จริงๆ)
2. เมื่อมีปัญหาควรปรึกษาครอบครัว ครู หรือผู้ใหญ่ที่น่านับถือ ไม่ควรเก็บปัญหานั้นไว้หรือหาทางลืมปัญหาโดยใช้สิ่งเสพย์ติดช่วยหรือ ใช้เพื่อเป็นการประชด
3. หลีกเลี่ยงให้ห่างไกลจากผู้ติดสิ่งเสพย์ติด หรือผู้จำหน่ายสิ่งเสพย์ติด
4. ถ้าพบคนกำลังเสพสิ่งเสพย์ติด หรือจำหน่ายให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่
5. ศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโทษของสิ่งเสพย์ติด เพื่อจะได้ป้องกันตัวและผู้ใกล้ชิดให้ห่างจากสิ่งเสพย์ติด
6. ต้องไม่ให้ความร่วมมือเข้าไปเกี่ยวข้องกับเพื่อนที่ติดสิ่งเสพย์ติด เช่นไม่ให้ยืมเงิน
7. ไม่หลงเชื่อคำชักชวนโฆษณา หรือคำแนะนำใดๆ หรือแสดงความเก่งกล้าเกี่ยวกับการเสพสิ่งเสพย์ติด
8. ไม่ใช้ยาอันตรายทุกชนิดโดยไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์ และควรใช้ยาที่แพทย์แนะนำให้ตามขนาดที่แพทย์สั่งไว้เท่านั้น
9. หากสงสัยว่าตนเองจะติดสิ่งเสพย์ติดต้องรีบแจ้งให้ผู้ใหญ่ทราบ
10. ยึดมั่นในหลักธรรมของศาสนา หรือคำสอนของศาสนาทุกศาสนา เพราะทุกศาสนามีจุดมุ่งหมายให้บุคคลประพฤติแต่สิ่งดีงามและละเว้นความชั่ว
 
 
 
 

เข้าชม : 67

บทความทั่วไป 5 อันดับล่าสุด

      เทศกาลกินเจ ปี2557 มี 2 รอบ 22 / ก.ย. / 2557
      วันไหว้พระจันทร์ 8 / ก.ย. / 2557
      ประวัติวันสงกรานต์ 13 / เม.ย. / 2557
      วันวาเลนไทน์ Valentine’s Day 7 / ก.พ. / 2557
      วันมาฆบูชา 7 / ก.พ. / 2557


 

กศน. ตำบลคลองพลู

ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอหนองใหญ่

Powered by MAXSITE 1.10   Modify by   chonnfe   Version 2.03