ทุกๆ วันที่ 31 พฤษภาคม ของทุกปี เป็น วันงดสูบบุหรี่โลก (World No Tobacco Day) โดย ได้มีการประกาศตั้งแต่ พ.ศ. 2531 ( ค.ศ. 1988) โดยองค์การอนามัยโลก ได้มีการกำหนดกิจกรรมต่างๆ เพื่อกระตุ้นให้ทั้งภาครัฐ ชุมชน และประชากรโลก ให้ตระหนักถึงพิษภัยและโทษของบุหรี่ เพื่อให้ประชากรโลก และเยาวชน ลด ละ เลิกบุหรี่นั้นเอง ทั้งนี้ เรามาทำความรู้จักกันตั้งแต่เริ่มต้นกันเลยว่า บุหรี่ มีที่มาอย่างไร
ประวัติของบุหรี่
ว่ากันว่าเริ่มตั้งแต่ พ.ศ. 2035 ชาวอินเดียแดง ชนเผ่าพื้นเมืองในทวีปอเมริกา ได้เริ่มต้นใช้ยาสูบเป็นพวกแรก โดยชาวพื้นเมืองนั้นใช้ใบไม้ชนิดหนึ่งมามวนและ จุดไฟตอนปลายแล้วดูดดมควัน ต่อมาใน พ.ศ. 2091 ที่ประเทศบราซิลได้มีการปลูกยาสูบไว้เป็นพืชเศรษฐกิจ และก็เริ่มมีการแพร่หลายกันมากขึ้น จนมาถึง พ.ศ. 2455 นาย จอห์น รอลฟ์ (John Rolfe) ชาวอังกฤษ ได้ทำการจดทะเบียนในการปลูกยาสูบเชิงพาณิชย์ ซึ่งตั้งแต่วันนั้น ก็ได้แพร่หลายสู่ทั่วโลกมาจนถึงทุกวันนี้
ประวัติของบุหรี่ในประเทศไทย
ใน ประเทศไทยเรานี้เริ่มต้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา โดยมีหลักฐานจากจดหมายเหตุของ เมอร์ซิเออร์ เดอลาลูแบร์ (Momsieur De La Loubre) อัครราชทูตฝรั่งเศส ได้เดินทางมาเมืองไทยสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เมื่อ พ.ศ. 2230 เขียนเล่าเรื่องไว้ว่า “คนไทยชอบใช้ยาสูบอย่างฉุนทั้งชายและ หญิง โดยได้ยาสูบมาจากเมืองมะนิลา ในหมู่เกาะฟิลิปปินส์ และประเทศจีน ครั้นมาถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีการผลิตบุหรี่ขึ้นโดยบริษัทที่มีชาวอังกฤษ เป็นเจ้าของในพ.ศ. 2460 ด้วยวิถีการผลิตด้วยมือ จากนั้นรัชสมัยสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีการนำเครื่องจักรเข้ามาผลิต ทำให้การสูบบุหรี่เกิดการแพร่หลายมากขึ้น จนมาถึง พ.ศ. 2482 รัฐบาลได้จัดตั้งโรงงานยาสูบขึ้น โดยใช้ชื่อกิจการมาจากห้างหุ้นส่วนบูรพายาสูบ จำกัด โดยดำเนินกิจการอุตสาหกรรมยาสูบภายใต้การควบคุมของกรมสรรพสามิต ต่อมาเศรษฐกิจได้พัฒนามากขึ้น จึงมีการรวมกิจการต่างๆ เข้าด้วยกัน และดำเนินการภายใต้ชื่อ โรงงานยาสูบ กระทรวงการคลัง มาจนถึงปัจจุบัน
โทษของการสูบบุหรี่
ปัจจุบัน นี้เรารู้กันอยู่แล้วว่า บุหรี่นั้นมีโทษภัยร้ายแรงทั้งตัวผู้สูบและ บุคคลรอบข้าง วันนี้จึงได้นำข้อมูลที่เกี่ยวกับพิษภัยของบุหรี่มาทบทวนกันให้ทราบถึงโทษของบุหรี่ หลักๆ เพื่อเป็นแรงผลักดันให้ งดสูบบุหรี่ หรือเลิกสูบบุหรี่ ดังนี้
- บุหรี่ เป็นชื่อเรียกชนิดหนึ่งของ ยาสูบ ซึ่งมีคนนิยมมากที่สุด
- ยาสูบ เป็นพืชที่ปลูกได้ในทุกสภาพดินและ อากาศ ส่วนที่สร้างปัญหาทางด้านสุขภาพขอยาสูบคือ “ใบ”
- ใบ ยาสูบ มีส่วนประกอบต่างๆ มากกว่า 4,000 ชนิด เมื่อเกิดการเผาไหม้ ทั้งสารเคมีที่มีพิษและ ไม่มีพิษ ซึ่ง ส่วนใหญ่คือสารที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็ง ความดัน โรคหัวใจ
- การสูบบุหรี่ ทำให้เสื่อมสมรรถภาพทางเพศลดลง ฟันเหลือง ตาแดง เล็บเขียว มีกลิ่นปาก
บุหรี่ คือ ฆาตรกรเงียบ ที่ทำร้ายชีวิตของเราโดยไม่รู้ตัว ไม่เพียงเท่านั้น ยังทำร้ายคนข้างกาย คนที่เรารักอีกด้วย
- คำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก พ.ศ. 2531 คือ “บุหรี่หรือสุขภาพ ต้องเลือกสุขภาพ” (Between tobacco and health,choose health)
- คำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก พ.ศ. 2532 คือ “ตายผ่อนส่งด้วยบุหรี่ สิ้นศักดิ์ศรีสตรีไทย” (The female smoker : at added risk)
- คำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก พ.ศ. 2533 คือ “เติบโตอย่างสดใส ห่างไกลจากบุหรี่” (Growing up without tobacco)
- คำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก พ.ศ. 2534 คือ “ปีแห่งการรณรงค์ สาธารณสถานและยวดยานปลอดควันบุหรี่” (Public places and transport : better be tobacco free)
- คำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก พ.ศ. 2535 คือ ” ที่ทำงานปลอดบุหรี่ สุขภาพดี ชีวีปลอดภัย” (Tobacco free work places : safer&healther)
- คำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก พ.ศ. 2536 คือ “บุคลากรสาธารณสุขสร้างสรรค์สังคมปลอดบุหรี่” (Health services,including health personne,against tobacco)
- คำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก พ.ศ. 2537 คือ “ทุกสื่อร่วมใจต้านภัยบุหรี่” (The media against tobacco)
- คำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก พ.ศ. 2538 คือ “บุหรี่มีพิษภัย ทำลายไกลกว่าที่คิด” (Tobacco costs more than you think)
- คำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก พ.ศ. 2539 คือ “ศิลปะและกีฬาไม่พึ่งพาบุหรี่ ถวายองค์ภูมี ปีทรงครองราชย์” (Sport and the arts without tobacco : planit tobacco free)
- คำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก พ.ศ. 2540 คือ “โลกนี้สดใส ทุกฝ่ายร่วมใจ ต้านภัยบุหรี่” (United for a tobacco-free world)
- คำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก พ.ศ. 2541 คือ “เติบโตอย่างสดใส ห่างไกลจากบุหรี่” (Growing up without tobacco)
- คำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก พ.ศ. 2542 คือ “อนาคตมีคุณค่า เมื่อบอกลา เลิกบุหรี่” (Leaving the pack behind)
- คำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก พ.ศ. 2543 คือ “บันเทิงได้แม้ไร้ควันบุหรี่” ((Siogan : Tobacco Kills – Don’t be Duped)
- คำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก พ.ศ. 2544 คือ ” เห็นใจคนรอบข้าง ร่วมสร้างอากาศสดใส ปลอดจากภัยควันบุหรี่” (SECOND – HAND SMOKE . LET’S CLEAR THE AIR)
- คำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก พ.ศ. 2545 คือ “กีฬาปลอดบุหรี่ ส่งผลดีต่อสุขภาพ” ( Tobacco- Free Sports: Play it clean)
- คำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก พ.ศ. 2546 คือ “ภาพยนตร์ปลอดบุหรี่ ส่งผลดีต่อสุขภาพ ” (Tobacco free films tobacco free fashion)
- คำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก พ.ศ. 2547 คือ”บุหรี่;ยิ่งสูบ:ยิ่งจน” ” ครอบครัวปลอดบุหรี่ จะมั่งมีและแข็งแรง” (Tobacco and Poverty (Avicious Circle)
- คำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก พ.ศ. 2548 คือ “ทีมสุขภาพร่วมใจ ขจัดภัยบุหรี่” (Health Professionals and Tobacco Control)
- คำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก พ.ศ. 2549 คือ “บุหรี่ทุกชนิด นำสู่ความตาย” (Tabacco : Deadly in any form or disguise)
- คำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก พ.ศ. 2550 คือ “ไร้ควันบุหรี่ สิ่งแวดล้อมดี ชีวีสดใส” (Smoke-Free Environments)
- คำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก พ.ศ. 2551 คือ “เยาวชนรุ่นใหม่ ร่วมใจต้านภัยบุหรี่” (Tobacco-Free Youth)
- คำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก พ.ศ. 2552 คือ “บุหรี่มีพิษ ร่วมคิดเตือนภัย” (Tobacco Health Warnings)
- คำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก พ.ศ. 2553 คือ “หญิงไทยฉลาด ไม่เป็นทาสตลาดบุหรี่” (Gender and tobacco with an emphasis on marketing to women)
- คำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก พ.ศ. 2554 คือ “พิทักษ์สิทธิตามกฏหมาย มุ่งสู่สังคมไทยปลอดบุหรี่” (The WHO Framework Convention on Tobacco Control)
- คำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก พ.ศ. 2555 คือ “จับตา เฝ้าระวัง ยับยั้งอุตสาหกรรมยาสูบ” (Tobacco Industry Interference)
กลยุทธ์รับมือการเลิกสูบบุหรี่
- เลิกโดยเด็ดขาดทันทีทันใด จะเห็นผลดีกว่าการลดปริมาณ หากเราสามารถอดทนได้ใน 2-3 วันแรก โอกาสเลิกสูบบุหรี่ก็จะเป็นไปได้สูง
- ออกกำลังกายเบาๆ อย่างน้อยวันละ 30-40 นาที เพื่อสร้างกิจกรรมระหว่างการเว้นว่างเพื่อสูบบุหรี่ แต่การออกกำลังกายกลับเป็นการกระตุ้นและ ซ่อมแซมร่างกายที่เสียหายจากบุหรี่อีกด้วย
- หายใจช้าๆ ลึกๆ และ หลีกเลี่ยงสุรา ชา หรือกาแฟ เพราะจะทำให้เกิดอาการอยากสูบบุหรี่
- หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเดิมๆ ที่จะก่อให้เกิดการสูบบุหรี่
- สามารถใช้หมากฝรั่งเคี้ยวระหว่างวัน เพื่อทำให้รู้สึกปากไม่ว่างได้
หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถโทรเข้าสายด่วนเลิกบุหรี่ ได้ที่ 1600
เข้าชม : 1580
|