เนื้อหา : บทความสาระน่ารู้
หมวดหมู่ : บทความสุขภาพ
หัวข้อเรื่อง : ป้องกันสมองเสื่อมในผู้สูงอายุ (อัลไซเมอร์)

อังคาร ที่ 30 เดือน กรกฏาคม พ.ศ.2556

คะแนน vote : 1  

ป้องกันสมองเสื่อมในผู้สูงอายุ (อัลไซเมอร์)

โดย 
| |

 

/data/content/26413/cms/e_efijklotuwz5.jpg

          ภาวะสมองเสื่อมในผู้สูงอายุที่พบมากคือ โรคอัลไซเมอร์(50-75%) สมองเสื่อมคือ เป็นกลุ่มอาการซึ่งเกิดจากความผิดปกติในการทำงานของสมองหลายๆ ด้านพร้อมกันแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่เกิดขึ้นอย่างถาวร ส่งผลให้มีการเสื่อมของระบบ ความจำ, เข้าใจ, พิจารณา, วิเคราะห์, การควบคุมตนเองเสื่อมถอยลง อันเนื่องมาจากสมองถูกทำลาย จนส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตประจำวันและความสามารถอยู่ร่วมในสังคม

          อัตราการเกิดโรค

          จากข้อมูลสถิติระบาดวิทยาของดับเบิ้ลยูเอชโอ พบว่าอุบัติการณ์ และความชุกของโรคอัลไซเมอร์มากขึ้นตามอายุพบว่า 1 ใน 4 ของผู้สูงอายุ 85 ปี เป็นโรคอัลไซเมอร์เมื่ออายุ95 ปี อัตราการเกิดโรคมากถึงครึ่งหนึ่ง ประเทศแถบตะวันตกเช่น ประเทศสหรัฐอเมริกา  อัตราการเกิดโรคอัลไซเมอร์เมื่ออายุ 75 ปีขึ้นไปในปัจจุบันคิดเป็น 20% อายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป ในประเทศสหรัฐคิดเป็น 10% ในประเทศจีนคิดเป็น 4.2% และในประเทศไทยคิดเป็น 3.4%

ไม่ว่าใครก็สามารถป่วยได้ อดีตประธานาธิบดีแห่งสหรัฐ“โรนัลด์ เรแกน” และอดีตนายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักร“มาร์กาเรต ฮิลดา แทตเชอร์” ล้วนแต่เป็นผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ทั้งสิ้น

           ความสามารถในการจำลดลง เป็นอาการแสดงเบื้องต้นที่พบได้บ่อยที่สุดของโรคอัลไซเมอร์ สาเหตุของโรคไม่ชัดเจน

           โรคอัลไซเมอร์ คือ โรคชนิดหนึ่งของระบบประสาทที่ถดถอยมีการดำเนินโรคอย่างต่อเนื่อง อาการเบื้องต้นไม่ชัดเจนปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด พบว่าในช่วงวัยรุ่นหากมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันที่ไม่เหมาะสม ก็เป็นสาเหตุของการเกิดโรคได้  แต่ไม่นานมานี้มีการวิจัยพบว่า พยาธิสภาพอยู่ที่ยีนบนโครโมโซมคู่ที่ 21 ที่สร้าง amyloid ในสมอง แสดงให้เห็นว่า อาการสมองเสื่อมค่อนข้างมีความเกี่ยวข้องทางพันธุกรรม

           อาการแสดง

           อาการเบื้องต้นไม่เด่นชัด  ความจำบกพร่อง  ความสามารถในการดำรงชีวิตประจำวันลดลง ไม่รู้จักคู่ครอง การสวมเสื้อผ้า การรับประทานอาหารแม้กระทั่งการขับถ่ายปัสสาวะอุจจาระก็ไม่สามารถควบคุมเองได้ นำมาซึ่งความลำบากและปัญหาแก่ตนเอง และคนรอบตัวอย่างไม่สิ้นสุด เฉลี่ยผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์สามารถดำรงชีวิตต่อได้คิดเป็น 5.5 ปี

           การป้องกันเป็นหลัก

          โรคอัลไซเมอร์ คือ โรคที่ทำได้ “เพียงป้องกัน ไม่สามารถรักษาได้” ดังนั้นการป้องกันแต่แรกเริ่มเป็นเพียงวิธีการหนึ่งในการต่อต้าน

          ใครที่ง่ายต่อการเป็นโรคนี้มากที่สุด

          ใครบ้างที่มีสิทธิเป็นโรคนี้มากที่สุด?  จากสถิติในปัจจุบัน ผู้ป่วยมักจัดอยู่ในกลุ่มข้อดังต่อไปนี้ : สูงอายุ  เพศหญิงเป็นม่าย รายได้ต่ำ การศึกษาไม่สูง

          นักวิทยาศาสตร์เห็นว่า การถ่ายทอดทางพันธุกรรม  การได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ และความดันโลหิตสูง เป็นต้น ล้วนแต่เป็นปัจจัยให้เกิดโรค แต่ปัจจัยคุกคามที่สุดคือ ความชราภาพ !

          ปัจจัยเสี่ยงของโรคอัลไซเมอร์

          1. การได้รับอะลูมิเนียมในปริมาณมาก  ผู้ป่วยจะมีปริมาณอะลูมิเนียมในสมองใหญ่ (ซีรีบรัม) มากกว่าคนแข็งแรงทั่วไปหลายเท่าถึงสิบเท่า จึงเห็นได้ว่า ในสมองใหญ่ที่มีการสะสมอะลูมิเนียมปริมาณมากจะทำลายเซลล์ประสาทได้ง่ายและส่งผลให้เกิดโรคอัลไซเมอร์

         2. หลอดเลือดแดงสมองแข็ง  เนื่องจากหลอดเลือดแดงแข็งก่อให้เกิดหลอดเลือดแดงขนาดเล็กอุดตันทำให้เลือดไปหล่อเลี้ยงสมองไม่พอ ส่งผลให้สมองฝ่อตัว ความสามารถทุกด้านถดถอยลงเกิดเป็นโรคอัลไซเมอร์

         3. ระบบการเผาผลาญเสียสมดุล  เช่น โรคเบาหวาน !การเผาผลาญไขมันไม่ดีทำให้เกิดไขมันในเลือดสูง เป็นสาเหตุโรคหลอดเลือด สมองใหญ่มีเลือดไม่พอ ทำให้สมองฝ่อ กลายเป็นโรคอัลไซเมอร์

         4. สมองใหญ่ได้รับความเสียหาย งานวิจัยของประเทศอังกฤษพบว่า หากบริเวณศีรษะได้รับความเสียหายอาจทำให้สมองสร้างก้อนโปรตีนที่ผิดปกติได้ ซึ่งในผู้ป่วยสมองเสื่อมจะพบการสะสมของสารที่มีลักษณะคล้ายกันนี้ ชักนำให้เกิดโรคอัลไซเมอร์

         5. การทานอาหารอิ่มเกิน นักวิชาการชาวญี่ปุ่นเห็นว่าหลังทานหารอิ่มเกิน สารในสมองใหญ่ที่เรียกว่า “Fibroblast growth factor” (เซลล์อ่อนที่ยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่) จะมีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ทำให้เซลล์บุผนังหลอดเลือดฝอยและไขมันเพิ่มมากขึ้น เป็นสาเหตุให้เกิดหลอดเลือดแดงแข็งตัว ก่อให้เกิดสติปัญญาและสมองใหญ่เสื่อมถอยก่อนวัย

         6. การติดเชื้อไวรัส นักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกันวิจัยพบว่า เชื้อโรคที่ก่อให้เกิดโรคอัลไซเมอร์ คือ เชื้อไวรัสเรื้อรังที่มีขนาดเล็กกว่าเชื้อไวรัสทั่วไป 100 เท่า

         7. การสูบบุหรี่ นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมัน ทำการวิจัยที่ได้รับการรับรองว่า ผู้ที่สูบบุหรี่เป็นเวลานานทำให้โครงสร้างสมองมีการฝ่อลงในระดับที่ต่างกัน ง่ายต่อการเกิดโรคอัลไซเมอร์เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ ทั้งนี้ผู้ที่สูบบุหรี่จัดจะมีอัตราการเกิดภาวะสมองเสื่อมมากขึ้นอย่างชัดเจน โดยมีการเกิดภาวะสมองเสื่อมในผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น 157% และเป็นโรคสมองเสื่อมชนิดหลอดเลือดแดงเพิ่มขึ้น 172%

 

 

         ที่มา : เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์

         ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต

















































































































































ที่มา : http://www.thaihealth.or.th/Content/26413-%E0%B8%9B%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%B8%20(%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%A5%E0%B9%84%E0%B8%8B%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C)%20.html

เข้าชม : 605


บทความสุขภาพ 5 อันดับล่าสุด

      ป้องกันสมองเสื่อมในผู้สูงอายุ (อัลไซเมอร์) 30 / ก.ค. / 2556
      อาหารต้องห้าม 5 ประเภท ที่ควรหลีกเลี่ยงก่อนออกกำลังกาย 10 / ก.ค. / 2556
      8 วิธีให้คุณหันมาดื่มน้ำง่ายขึ้น 10 / ก.ค. / 2556




ชื่อ/Email :
ใส่รหัสที่ท่านเห็นลงในช่องนี้ [กด F5 ถ้ารหัสไม่ชัดเจน]
ไอคอน : ย่อหน้า จัดซ้าย จัดกลาง จัดขวา ตัวหนา ตัวเอียง เส้นใต้ ตัวยก ตัวห้อย ตัวหนังสือเรืองแสง ตัวหนังสือมีเงา สีแดง สีเขียว สีน้ำเงิน สีส้ม สีชมพู สีเทา
อ้างอิงคำพูด เพิ่มเพลง เพิ่มวีดีโอคลิป เพิ่มรูปภาพ เพิ่มไฟล์ Flash เพิ่มลิงก์ เพิ่มอีเมล์
ความคิดเห็น :


กรุณาใช้คำพูดที่สุภาพ และอย่าใช้คำพูดที่พาดพิงถึงบุคคลอื่นให้เสียหาย ขอขอบคุณที่ให้ความร่วมมือ


ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของระบบไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม กรุณาแจ้งที่ mocyc@hotmail.com เพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป