1. Abbey Library of St. Gallen | Switzerland
Abbey Library of St. Gallen คือห้องสมุดที่สวยที่สุดในโลก ห้องสมุดที่งดงามแห่งนี้ ไม่เพียงแต่เป็นห้องสมุดที่เก่าแก่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ แต่ยังเป็นห้องสมุดที่เก่าแก่ที่สุด และเป็นห้องสมุดประจำอารามที่สำคัญที่สุดของโลกอีกด้วย ห้องสมุดแห่งนี้เก็บรักษาเอกสารไว้เกือบ 160,000 ฉบับ ซึ่งส่วนใหญ่มีอายุย้อนไปถึงช่วงศตวรรษที่ 8 เลยทีเดียว ห้องสมุดสไตล์รอคโคโค่แห่งนี้มักถูกอ้างถึงในฐานะของห้องสมุดที่สมบูรณ์แบบที่สุดในโลก และทำให้ตัวอารามเองได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกอีกด้วย
|
2. Strahov Monastery Library | Czech Republic
Strahov Monastery Library คือห้องสมุดที่งดงามจนพรากลมหายใจแห่งนี้ บรรจุเอกสารโบราณไว้กว่า 200,000 ฉบับ โดยมี 3,000 ที่เป็นของแท้ ภายในมีห้องโถงที่แบ่งออกเป็น 2 ส่วน และมีทางเดินเชื่อมถึงกันได้ Theological Hall ที่มีผนังฉาบปูนหยาบสวยงามดึงดูดใจนั้น เก็บรักษางานเขียนเกี่ยวกับศาสนวิทยาและไบเบิลนับพันฉบับเอาไว้
|
3. Admont Abbey Library | Austria
Admont Abbey Library สร้างขึ้นในปี 1776 ยาว 70 เมตร กว้าง 14 เมตร และสูง 13 เมตร และเป็นห้องสมุดประจำอารามที่ใหญ่ที่สุดในโลก บนเพดานมีภาพวาดปูนเปียกที่แสดงให้เห็นถึงลำดับพัฒนาการความรู้ของมนุษย์ในแต่ละขั้นจนถึงการเปิดเผยจากพระเจ้า (Divine Revelation) การออกแบบของห้องสมุดทั้งหมดนั้น สะท้อนให้เห็นถึงความคิดและการให้คุณค่ากับการรู้แจ้ง (Enlightenment)
|
4. Bibliotheque Nationale de France | France
Bibliothèque nationale de France คือ หอสมุดแห่งชาติของประเทศฝรั่งเศสที่ตั้งอยู่ในกรุงปารีส ห้องสมุดแห่งนี้ได้รับการต่อเติมอย่างมาก นับตั้งแต่อาคารหลังใหม่ถูกต่อเติมเข้ากับอาคารหลังเดิมในปี 1988 แม้กระนั้น อาคารเดิมอย่าง Rue de Richelieu ก็ยังมีการใช้งานอยู่ และยังคงงดงามโดดเด่นอยู่เช่นที่เคยเป็นมา หอสมุดแห่งนี้มีต้นฉบับภาษากรีกราว 5,000 ฉบับ ซึ่งแบ่งออกไปเป็น 3 ส่วน คือ Ancien fonds grec, fonds Coislin และ Fonds du Supplément grec
|
5. The Library of El Escorial | Spain
ห้องสมุด The Library of El Escorial แห่งนี้ตั้งอยู่ใน Royal Seat of San Lorenzo de El Escorial บ้านพักเก่าแก่ของกษัตริย์แห่งสเปน Escorial เป็นอาคารขนาดใหญ่ในสเปนตอนกลาง ตัวอาคารนั้นเป็นสัญลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมที่สำคัญที่สุดของเรเนซองส์แบบสเปน การก่อสร้าง El Escorial เริ่มขึ้นในปี 1563 และเสร็จสิ้นลงในปี 1584 พระเจ้าฟิลลิปที่ 2 คือผู้ที่ต่อเติมห้องสมุด และหนังสือส่วนใหญ๋ที่อยู่กับห้องสมุดนี้มาตั้งแต่เริ่มแรก เพดานโค้งมีภาพวาดปูนเปียกที่งดงามมากมาย แต่ละภาพจะแสดงให้เห็นถึงศาสตร์ 7 แขนง อันได้แก่ วาทศิลป์ การโต้วาที การดนตรี หลักภาษา คณิตศาสตร์ เรขาคณิต และ ดาราศาสตร์
|
6. Biblioteca Joanina, University of Coimbra | Portugal
ห้องสมุดของ University of Coimbra นั้นประกอบไปด้วยอาคาร 2 หลัง ได้แก่ อาคารใหม่ที่สร้างขึ้นในปี 1962 และ Joanina Library ที่แห่งนี้ ครั้งหนึ่งเคยได้รับการอ้างถึงในฐานะที่เป็น “บ้านของร้านหนังสือ” Joanina library ติดอันดับ 1 ใน 5 สุดยอดห้องสมุดของโลก โดยปัจจุบันใช้ชื่อว่า Biblioteca Joanina ห้องสมุดสไตล์บาโรคแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อ 1717 – 1728 ในช่วงการปกครองของ King João V of Portugal ภายในห้องสมุด มีห้องโถงใหญ่ 3 ห้องที่แยกออกจากกันด้วยประตูโค้งที่ประดับตกอต่างอย่างสวยงาม ภายในแต่ละต้องที่เพดานได้รับการตกแต่งอย่างหรูหรา เต็มไปด้วยการเคลือบทองและไม้หายาก กำแพงแต่ละด้านเต็มไปด้วยหนังสือที่ตั้งอยู่บนชั้นหนังสือแบบ 2 ชั้น ทุกวันนี้ Biblioteca Joanina ได้กลายมาเป็น Portuguese National Monument และเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวหลักของมหาวิทยาลัย
|
7. Wiblingen Monastery Library | Germany
Wiblingen Monastery Library สร้างขึ้นเสร็จสมบูรณ์ในปี 1744 ห้องสมุดประจำอารามแห่งนี้อยู่ในฝั่งปีกทางทิศเหนือของ Wiblingen Abbey การตกแต่งภายในสไตล์รอคโคโค่อันประณีตงดงาม เสาค้ำและรูปปั้นมากมายคือสิ่งที่รับน้ำหนักของภาพวาดปูนเปียกบนเพดาน ที่แสดงให้เห็นถึงมุมมองของศิลปินที่ถ่ายทอดออกมาว่า ห้องสมุดแห่งนี้ คือสถานที่สำหรับเก็บรักษา “สมบัติแห่งปัญญาและวิทยาศาสตร์” ที่ด้านนอกของห้องสมุดที่อักษรจารึกเอาไว้ว่า “In quo omnes thesauri sapientiae et scientiae” ซึ่งแปลว่า “ที่ซึ่งเก็บรักษาทรัพย์สินแห่งความรู้และวิทยาศาสตร์ทั้งหลายเอาไว้”
|
8. Austrian National Library | Austria
หอสมุดแห่งชาติออสเตรียตั้งอยู่ในพื้นที่ของ Hofburg Palace ในกรุงเวียนนา เป็นห้องสมุดที่ใหญ่ที่สุดของประเทศออสเตรีย และมีหนังสือหลากหลายประเภทกว่า 7.4 ล้านเรื่องเก็บรักษาเอาไว้ หอสมุดแห่งสร้างเสร็จในปี 1723 และประดับประดาด้วยงานประติมากรรมของ Lorenzo Mattielli และ Peter Strudel และภาพสีปูนเปียก (fresco) โดย Daniel Gran ภายในตัวอาคารของหอสมุดประกอบไปด้วยพิพิธภัณฑ์ 4 แห่ง และหนังสือและเอกสารบันทึกโบราณอีกมากมาย
|
9. Trinity College Library | Ireland
นอกเหนือไปจากความสวยงามโดดเด่นแล้ว Trinity College Library ยังเป็นห้องสมุดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไอร์แลนด์อีกด้วย และเป็นห้องสมุดประจำ Trinity College และ University of Dublin ทำหน้าที่เป็นห้องสมุดลิขสิทธิ์ของประเทศ ซึ่งหนังสือและสิ่งตีพิมพ์ทุกประเภทจะต้องส่งมาที่ห้องสมุดแห่งนี้เมื่อดำเนินการขอรับลิขสิทธิ์ และยังเป็นห้องสมุดไอริชเพียงแห่งเดียวที่มีสิทธิ์ในการมอบลิขสิทธิ์จากสหราชอาณาจักร ห้องสมุดแห่งนี้คือที่เก็บรักษาถาวรของ Book of Kells อันโด่งดัง ซึ่งเขียนขึ้นด้วยบาทหลวงชาวเคลติกราวช่วงปี 800
|
10. Bristol Central Library | England
Bristol Central Library เป็นอาคารเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของ College Green เมือง Bristol ประเทศอังกฤษ โดยทำหน้าที่เก็บรักษาหนังสือจากห้องสมุดสาธารณะของเมือง Bristol เอาไว้ หอสมุดแห่งนี้สร้างขึ้นในปี 1906 และมีความงดงามโดดเด่นของส่วนผสมอันมีเอกลักษณ์ทางสถาปัตยกรรม ด้านหน้าอาคารส่วนนอกเป็นทิวดอร์กับแบบโมเดิร์นเพื่อให้กลมกลืนไปกับ Abbey Gatehouse ที่อยู่ติดกัน อาคารเป็นแบบทางลาด และด้านหน้าของตึกก็สูงเพียง 3 ชั้นเท่านั้น แต่มีชั้นใต้ดิน 2 ชั้นที่สร้างลงไปในเนินเขา ส่วนหลังของอาคารนั้นมี 5 ชั้น
|